ยุโรปมักจะอยู่ลำดับต้นๆ ที่คนอยากไป เพราะด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และความหลากหลายด้านวัฒนกรรมจึงดึงดูนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี และยิ่งไปกว่านั้นการเที่ยวยุโรป ด้วยตัวเอง ยังไม่ยาก ความปลอดภัย เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเที่ยวเมือง เดินป่า หรือ ปีนเขา ก็เที่ยวคนเดียวไร้ความกังวล ว่าแต่สถานที่ท่องเที่ยวไหนบ้างที่เป็นพิกัดห้ามพลาดกับ 10 เดสติเนชั่น เที่ยว ยุโรป ด้วยตัวเอง สายสัมผัสธรรมชาติ เลิฟเวอร์แต่ถ้าไม่ชอบวางแพลนให้ยุ่งยาก แนะนำให้ไปเที่ยว กับทัวร์ ซึ่งทัวร์ครับ มีทัวร์ยุโรป แพ็คเก็จให้เลือกหลากหลาย คลิกเลย ทัวร์ยุโรปราคาดีๆ รอมากมาย10 ที่ เที่ยว ยุโรป ด้วย ตัว เอง1. Jungfrau (ยอดเขาจุงเฟรา)ถ้าพูดถึงประเทศที่วิวสวยเหมือนภาพวาดแน่นอนว่าต้องมีชื่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับ Top 5 แน่นอน นอกจากเป็นประเทศที่ธรรมชาติคัดสรรมาให้แล้วยังเป็นประเทศที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สำหรับจุดมุ่งหมายของคนชอบหิมะชอบเที่ยวลานสกีบอกเลยว่าต้องมาเยือน Top Of Europe หรือยอดเขาจุงเฟราให้ได้ เพราะด้านบนมีจุดให้เช็คอินเยอะมากไม่ว่าจะเป็น Sphinx หอชมวิวแบบ 360 องศา ที่อยู่บนระดับความสูง 3,571 เมตร เที่ยวถ้ำน้ำแข็งพันปี Ice Palace และยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟ Jungfraujoch ที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย แต่ก่อนไปเที่ยวต้องซื้อคอลเลคชั่นชุดกันหนาวเตรียมไว้เลยพิกัด : https://maps.app.goo.gl/EXYaxMC6RVoJs46b8เวลาทำการ : 7.30 – 15.30 น.2. Lake Como (ทะเลสาบโคโม่)ทะเลสาบโคโม่เป็นทะเลสาบรูปทรงตัว Y มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลี และเป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับ 5 ในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยเมืองต้อนมนต์ที่ทุกคนใฝ่ฝัน หนึ่งในนั้นคือเมืองโคโม่ที่เป็นแหล่งรวบรวมผลงานศิลปะชื่อดัง และมีสถาปัตยกรรมยุคเรเนซองส์ มากมายไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ หรือโรงละคร ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะชอบล่องเรือในทะเลสาบโคโม่เพราะจะได้ชมทัศนียภาพเมืองอื่นๆ ที่ล้อมรอบทะเลสาบทั้งเมืองเบลลาจิโอ วาเรนนา เมเนกจิโอ และเลนโน ซึ่งแต่ละเมืองก็จะเต็มไปด้วยสีสันของอาคารบ้านเรือนที่สร้างบนเชิงเขา เป็นความผสมผสานระหว่างธรรมชาติกับกับชีวิตผู้คนได้อย่างลงตัวพิกัด : https://maps.app.goo.gl/4f17x8wKy866XzpdAเวลาทำการ : 9.30 – 19.00 น.3. Kehlsteinhaus (เคลสไตน์เฮาส์)อีกหนึ่งที่เที่ยวยุโรป ด้วยตัวเอง ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เยอรมันประเทศแห่งเดสติเนชั่น สถานที่ที่ต้องไปให้ได้เลยคือเคลสไตน์เฮาส์ บ้านพักบนภูเขาที่มีวิวสวยประเมินค่าไม่ได้ เดิมเคลสไตน์เฮาส์เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ออกแบบมาในสไตล์ชาเล่ต์ ความน่าสนใจของบ้านหลังนี้คือมีทางลับเยอะมาก เหมาะแก่การสำรวจเป็นที่สุด ปัจจุบันถูกตั้งให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประจำรัฐบาวาเรีย ด้วยความที่บ้านพักตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามและอากาศดี ไม่แปลกเลยที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนชอบพิกัด : https://maps.app.goo.gl/hjsQgJ4guoX1aZzS6เวลาทำการ : 8.30 – 16.00 น.4. La Promenade des Anglais (ลา โพรเมอ นาด เด ซอง เกส)ชายหาด ลา โพรเมอ นาด เด ซอง เกส คือที่สุดของที่เที่ยวฝรั่งเศสที่ได้ใกล้ชิดลมทะเลแบบเต็มๆ ทะเลแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองนีซที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเน ลักษณะเด่นเลยคือชายหาดจะเป็นหิน ผู้คนนิยมมาเดินชายหาดไม่ก็มานอนอาบแดดในวันพักผ่อนเป็นประจำ อีกหนึ่งที่ที่นักท่องเที่ยวชอบไปคือย่านเมืองเก่า Vieux Nic ที่จะมีคนหนาตาเสมอ เพราะเป็นย่านงร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งให้เดินเที่ยวชมได้ทั้งวัน เรียกว่าเป็นเมืองที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติและความมีชีวิตชีวาของผู้คนได้อย่างกลมกลืนพิกัด : https://maps.app.goo.gl/PdW1YXLbHgb46GGB7เวลาทำการ : เปิด 24 ชั่วโมง5. Texel (เกาะเทกเซล)เที่ยวยุโรปทั้งทีต้องไม่พลาดประเทศสวยๆ อย่างเนเธอร์แลนด์ แหล่งธรรมชาติอากาศปลอดโปร่งดีต่อใจต้องไปเกาะเทกเซล สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ชนบทที่เด่นเรื่องเกษตรกรรมและปศุสัตว์ มีประภาคารที่แดงโดดเด่นมองเห็นแต่ไกล ใครที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างขี่จักรยานหรือว่ายน้ำ แนะนำให้เที่ยวช่วง กรกฎาคม-ตุลาคม อากาศจะไม่หนาวจนเกินไปและทุ่งหญ้ากำลังเขียวขจีสบายตา ส่วนใครชอบพักผ่อนอากาศหนาวต้องมาช่วง ธันวาคม-มีนาคม รับรองว่าฟิน นอกจากนี้ยังมีกิจกกรมสนุกๆ ให้ทำอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเดินป่าในอุทยานซึ่งมีให้เลือกหลายเส้นทาง หรือจะเดินเล่นบนชายหาดชิลล์ๆ ก็ได้ทั้งนั้นพิกัด : https://maps.app.goo.gl/zSs15BWYDSeLoza58เวลาทำการ : เปิด 24 ชั่วโมง6. Hohe Tauern National Park (อุทยานแห่งชาติโฮเฮอเทาแอร์น)อุทยานแห่งชาติโฮเฮอเทาแอร์น เป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศออสเตรียและเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่มีพื้นที่กว่า 1,800 ตารางกิโลเมตร ซึ่งยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรียก็ตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน ทั้งผืนป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติทั้งทุ่งหญ้า ธารน้ำแข็ง และน้ำตก ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลจนสุดสายตา นอกจากนี้การได้มาเที่ยวชมยังได้เห็นสัตว์ป่านานาชนิดไม่ว่าจะเป็นมาร์มอต เลียงผา หรือนกชนิดต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติก็ไม่เกินจริง ความสวยงามนี้หากได้มาเที่ยวยุโรปต้องมาเห็นกับตาให้ได้พิกัด : https://maps.app.goo.gl/i39jwTo2CeyjLVr86เวลาทำการ : 10.00 – 18.00 น.7. Heviz (ทะเลสาบเฮวิซ)เที่ยวยุโรปแบบชิลล์ได้ฟีลพักร้อน ทะเลสาบเฮวิซเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นทะเลสาบร้อนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก นักท่องเที่ยวนิยมมาชาร์จพลังด้วยการแช่น้ำอุ่น ซึ่งน้ำจากทะเลสาบเฮวิซจะเป็นน้ำที่ไหลมาจากถ้ำน้ำพุที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติเป็นยา จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่าการได้แช่น้ำที่ทะเลสาบเฮวิซสามารถบำบัดร่างกายจากโรคภัยได้ หรือในอีกทางหนึ่งก็มีคนจำนวนไม่น้อยมาแช่น้ำอุ่นเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายเหมือนได้ทำสปา การได้แช่น้ำสบายๆ พร้อมมองวิวธรรมชาติแห่งฮังการีถือเป็นการพักผ่อนที่หาไม่ได้ง่ายๆพิกัด : https://maps.app.goo.gl/zpf3beKqF17WTE4L9เวลาทำการ : 8.30 – 18.00 น.8. High Tatras (เทือกเขาทาทรา)เทือกเขาทาทราเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวาเกีย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยุโรปที่คนนิยมมาเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อนจะเน้นไปทางเดินป่าหรือปีนเขาชมธรรมชาติมากกว่า ซึ่งเส้นทางเดินป่าที่ยาวที่สุดของที่นี่จะมีระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่อยากชมความงามของธรรมชาติแต่ไม่ถนัดเดินไกลที่นี่ก็มีกระเช้าไฟฟ้าให้ชมวิวนั่งสบายๆ เช่นกัน นอกจากนี้ถ้าใครที่ชอบการเรียนรู้ที่นี่ก็มีพิพิธภัณฑ์ TANAP ซึ่งสามารถหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเขตสงวนชีวมณฑลได้ นับว่าเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวแหละแหล่งการเรียนรู้ ได้เที่ยวด้วยได้เนิร์ดด้วยฟินสุดพิกัด : https://maps.app.goo.gl/JpXCV37jrT4uLBXD8เวลาทำการ : เปิด 24 ชั่วโมง9. Waterloo (เมืองวอเตอร์ลู)เที่ยวเบลเยียมนอกจากได้ชมเมืองสวยๆ แล้วคนรักธรรมชาติต้องไม่พลาดเมืองเล็กๆ อย่างวอเตอร์ลู เมืองชนบทที่มีสตอรี่ประวัติศาสตร์ว่าสถานที่นี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดความยิ่งใหญ่ของพระเจ้านโปเลียนกษัตริย์นักรบของฝรั่งเศส และยังมีรูปปั้นสิงโตตั้งอยู่บนยอดเนินที่สร้างเป็นอนุสรณ์ให้แก่ทหารทั้งสองฝ่ายเมื่อครั้งสงคราม ซึ่งคาดว่ามีการสูญเสียเหล่าทหารไปกว่า 70,000 นาย เมื่อกาลเวลาผ่านไปวอเตอร์ลูกลายเป็นชนบทที่สงบสุข มีหมู่บ้านที่น่าอยู่และทุ่งหญ้าเขียวขจีขนาดใหญ่ เป็นอีกสถานที่เที่ยวยุโรปที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งพิกัด : https://maps.app.goo.gl/hBJ9mPWVTGzVDdEb9เวลาทำการ : เปิด 24 ชั่วโมง10. Plitvice Lakes National Park (อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเซ่)นักเดินห้ามพลาด เที่ยวยุโรปครั้งนี้พิกัดน่าโดนสำหรับคนรักธรรมชาติต้องไปอุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเซ่ ท้าทายความสามารถกับเส้นทางเดินเท้าที่มีให้เลือกทั้งหมด 7 เส้นทาง ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ไปจนถึงจนถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางก็จะได้เห็นบรรยากาศของธรรชาติไม่ว่าจะเป็นภูเขา ผืนป่า น้ำตก และทะเลสาบ และถ้าได้ไปถึงจุดชมวิวก็บอกได้เลยว่าหายเหนื่อย เพราะทิวทัศน์มุมสูงของที่นี่มีเงินอย่างเดียวก็ไม่ได้เห็น ต้องเดินด้วยพละกำลังของตัวเองเท่านั้น สายเดินป่าเตรียมตัวลุยได้เลยพิกัด : https://maps.app.goo.gl/aG9ayq7g6Nu6eua77เวลาทำการ : 7.00 – 16.00 น.สุดว้าวกันไปเลยสำหรับ 10 ที่เที่ยวยุโรป ด้วยตัวเอง ที่สายธรรมชาติเห็นแล้วต้องร้องกรี๊ด แต่นอกเหนือจาก 10 สถานที่นี้แล้วทั่วยุโรปยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสไตล์นี้อีกเยอะมาก ใครที่เป็นสาย Trail, Trekking หรือ Hiking บอกเลยว่าห้ามพลาด อยากไปทัวร์ยุโรป ก็จองกับ ทัวร์ครับ >> https://tourkrub.co/europe-tour

เวียดนาม เป็นอีกหนึ่ง ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องของการดื่มกาแฟมากๆ อาจเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส และสามารถปลูกกาแฟได้เองด้วย ทำให้กาแฟเวียดนามเป็นที่นิยม สำหรับนักท่องเที่ยว และ กาแฟเวียดนาม ก็ถือเป็นสินค้าส่งออกทำเงินเข้าประเทศเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนี้ยังถูกจัดอยู่ในกาแฟอันดับ 2 ที่อร่อยที่สุดในโลกด้วยเสน่ห์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ‘phin’ ดริปกาแฟ หรือการทำสูตรกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ธุรกิจกาแฟเวียดนามเติบโตไปอย่างกว้างขวาง มีคาเฟ่มากมายทั่วประเทศเวียดนาม ทั้งเวียดนามเหนือ กวาง ใต้ สำหรับกาแฟเลิฟเวอร์ มาเที่ยวเวียดนาม อยากให้ได้ลองเมนูกาแฟเอกลักษณ์เฉพาะที่นี่ ทัวร์ครับ รวมมาให้ 5 เมนู กาแฟเวียดนาม อร่อยเข้มดื่มแล้วตื่นแน่นอน อยากสัมผัสกาแฟเวียดนามถึงถิ่น สามารถดูแพ็คเก็จเวียดนาม และจองกับทัวร์ครับ ได้เลย https://tourkrub.co/vietnam-tourขอบคุณรูปภาพจาก : Xofa Café & Bistro1. Coconut Milk Coffeeใครไปเที่ยวเวียดนามแล้วรู้สึกอินเลิฟเมืองฮานอย อยากให้เพิ่มพิกัดร้าน Xofa Café & Bistro เข้าไปด้วย เชื่อว่าทุกคนต้องตกหลุมรักมากกว่าเดิม กับคาเฟ่ฟีลอบอุ่นที่มาในคอนเซ็ปต์จิบกาแฟวียดนามบนโซฟานุ่มๆ ในฤดูใบไม้ร่วง โคซี่สุดๆ สำหรับเครื่องดื่มที่เป็นเมนูเบสเซลเลอร์ของทางร้าน Coconut Milk Coffee กลิ่นเมล็ดแกแฟหอมๆ เติมความหวานด้วยน้ำมะพร้าว และโรยด้วยเนื้อมะพร้าว ให้ความสมูทสดชื่นเต็มสิบไม่ผิดหวัง นอกจากเครื่องดื่มกาแฟเวียดนามแล้วที่ร้านก็มีขนมและอาหารให้เลือกอีกหลายอย่าง เรียกได้ว่าร้านสวย กาแฟอร่อย แถมเปิด 24 ชั่วโมง เลิศกว่านี้ไม่มีอีกแล้วXofa Café & Bistro (โซฟา คาเฟ่ แอนด์ บิสโตร)Address :14 P. Tống Duy Tân, Hàng Bông, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnamพิกัด https://goo.gl/maps/dLjUtMzG67w8fKiE7เวลาทำการ : เปิด 24 ชั่วโมงขอบคุณรูปภาพจาก : Brewman Coffee Concept2. Ca phe Phinหนึ่งในร้านกาแฟเวียดนามสุดฮอตของเมืองดานังเป็นร้านกาแฟสไตล์ Glass House ที่ดึงดูสายตาเป็นที่สุด สำหรับร้าน Brewman Coffee Concept บอกเลยว่าคอฟฟี่เลิฟเวอร์ต้องไปตามชิมกาแฟของที่นี่ให้ได้ ถึงตัวร้านจะมีพื้นที่แค่ 80 ตารางเมตร แต่เรื่องขนาดไม่เป็นปัญหาเพราะหลังคาเป็นกระจก ซึ่งนอกจากจะทำให้พื้นที่เล็กๆ ไม่อึดอัดแล้วคอนเซ็ปต์เขาคืออยากให้ลูกค้ามองเห็นท้องฟ้าสวยๆ ในวันที่อากาศดี และมองเห็นดาวตอนกลางคืนในระหว่างที่ดื่มกาแฟไปด้วย เมนูต้องลองเลยคือ Ca phe Phin (Traditional) อร่อยจนอยากเดินมาซื้อทุกวัน แบบนี้เรียกว่าโดนกาแฟเวียดนามตกเข้าให้แล้วใช่ไหมนะBrewman Coffee Concept (บริวแมน คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์)Address :K27a/21, Thái Phiên, Phước Ninh, Hải Châu, Đà Nẵng 550000, Vietnamพิกัด https://goo.gl/maps/mEYHn6hrE54dwiSv8เวลาทำการ : 7.00 - 19.00 น. (เฉพาะวัน พุธ พฤหัส ศุกร์ ปิด 20.00 น.)ขอบคุณรูปภาพ : Khu Tổ Hợp Still Đà Lạt3. Almond Coffeeร้านกาแฟเวียดนามแบบนี้ก็มีด้วย เที่ยวเวียดนามอยู่ดีๆ ก็วาร์ปไปญี่ปุ่น อินเทรนด์สุดๆ เหมือนยกญี่ปุ่นขนาดย่อมมาไว้ที่เมืองดาลัด ร้านเด่นมากๆ เดินเข้ามาก็เจอกับ คาโอนาชิ ผีไร้หน้าจาก Spirited Away ที่มีสเกลเท่าคนจริงนั่งต้อนรับ การตกแต่งของร้านให้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นยุคเก่าที่ถ้าใส่ชุดกิโมโนมาก็เนียนสุดแบบแยกไม่ออก สำหรับร้านกาแฟเวียดนามร้านนี้ก็ไม่ได้โดดเด่นเพียงเรื่องการออกแบบตกแต่งเท่านั้น ทางด้านกาแฟก็มีหลายเมนูที่น่าสนใจ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศอบอุ่นๆ แบบนี้ เมนูที่ต้องลองเลยคือ Almond Coffee นุ่มละมุนไม่หลุดธีม และสำหรับคนที่แพ้นมวัวหรือรักสุขภาพเมนูนี้ก็เข้าทาง สั่งแล้วก็มานั่งชิลล์ชมนกชมไม้ได้ยาวๆKhu Tổ Hợp Still Đà Lạt (สติล คาเฟ่)Address :59 Nguyễn Trãi, Phường 9, Thành phố Đà Lạt, Lâm Đồng 66111, Vietnamพิกัด https://goo.gl/maps/WggHweCsfz1XKtEP6เวลาทำการ : 7.00 - 22.00 น.ขอบคุณรูปภาพ : Cong Caphe4. Coconut Coffeeร้านกาแฟลับแต่จัดเต็มเรื่องความเฟียส Cộng Caphe จัดว่าเป็นร้านกาแฟที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากของเวียดนาม เริ่มต้นจาก 2 สาขา แต่พอผ่านไป 5 ปี ตอนนี้งอกสาขาเพิ่มมามากกว่า 60 สาขาทั่วเวียดนามเลยทีเดียว คอนเซ็ปต์ของร้านจะมีความพาโรดี้คอมมิวนิสต์ยุค 80’s จนเคยถูกสั่งปิดชั่วคราว แต่เพราะความเฟียสร้านนี้จึงกลายเป็นร้านดังที่ใครไปเที่ยวเวียดนามก็ต้องมาเยือนสักครั้งให้ได้ เมนูซิกเนเจอร์ของร้านจะเป็นการเอามะพร้าวมาผสมกับเครื่องดื่มชนิดต่างๆ เช่น Coconut Coffee อันนี้ก็เป็นเมนูเด็ดที่ต้องลอง แต่หากใครไม่เลิฟมะพร้าวเท่าไหร่ก็มีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะมากๆ และถ้าใครชอบนั่งจิบกาแฟได้วิวโบสถ์สีชมพู Nhà thờ Tân Định ก็ต้องไปสาขาโฮจิมินห์เท่านั้นCong Caphe (เติม กาแฟ)Address :274 Hai Bà Trưng, Phường Tân Định, Quận 1, Thành phố Hồ Chí Minh, Vietnamพิกัด https://goo.gl/maps/oWDdU7jBgepzoGEXAเวลาทำการ : 7.00 - 23.00 น.ขอบคุณรูปภาาพ : Loading T café5. Egg coffeeเที่ยวย่านเมืองเก่าฮานอยแล้วอย่าลืมแวะคาเฟ่สวยๆ หนึ่งคาเฟ่แนะนำที่ต้องไปเช็คอิน Loading T café ร้านจะลึกลับหน่อยเพราะตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารเก่าสีเหลืองที่สร้างตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส และคาเฟ่แห่งนี้ไม่ได้มีดีเรื่องทำเลทั้งตั้งดีเท่านั้น แต่ยังมีเมนูกาแฟเวียดนามที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นั่นคือกาแฟไข่ (Egg coffee) เมนูที่ฟังไม่ไม่คุ้นเอาซะเลยแต่บอกเลยว่าต้องลองเปิดประสบการณ์สักครั้งแล้วจะติดใจ ดูเผินๆ ก็อาจจะคิดว่าเป็นลาเต้ธรรมดา แต่อันที่จริงฟองฟูๆ นุ่มๆ นั้นคือไข่ ก่อนดื่มแนะนำว่าคนให้ทุกอย่างเข้ากันก่อน จะได้รสกาแฟที่ละมุนไปอีกแบบและไม่เหมือนใครที่ไหน ซึ่งถ้าใครอยากได้ไวฟ์แปลกใหม่ในการเที่ยวเวียดนาม บอกเลยว่าก็ต้องลองเมนูนี้Loading T café (โหลดดิ้ง ที คาเฟ่)Address :8 P. Chân Cầm, Hàng Trống, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnamพิกัด https://goo.gl/maps/CHJ4urda2HsrKcmD8เวลาทำการ : 8.00 - 18.00 น.นอกจากกาแฟเวียดนามร้านดังทั้ง 5 ร้าน ที่เราแนะนำไว้แล้วก็ยังมีคาเฟ่สวยๆ กาแฟอร่อยอีกนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าเดินไปทางไหนก็เจอแต่ร้านกาแฟเก๋ๆ เต็มไปหมด สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวเวียดนาม ก็คลิกที่ลิงค์ได้เลย ทัวร์เวียดนาม ทัวร์ครับ มีแพ็คเก็จให้เลือกเพียบเลย >> https://tourkrub.co/vietnam-tour

อยู่ประเทศไทยมีแต่ฤดูร้อนกับฤดูฝน พอเข้าใกล้สิ้นปีก็เริ่มเห็นประเทศอื่นมีหิมะตกกันบ้างแล้ว แบบนี้มันรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อยากออกไปสัมผัสหิมะนุ่มๆ ท่ามกลางอากาศหนาวบ้าง และถ้าพูดถึงประเทศหนาว หิมะ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง ญี่ปุ่น หน้าหนาว บ้างไม่มากก็น้อย วิวสวย เมืองน่ารัก แถมอาหารอร่อย นับว่าเป็นประเทศน่ารักน่าเที่ยวในทุกๆ ด้านของคนทั่วโลกสำหรับใครที่อยากไปเที่ยว ญี่ปุ่น หน้าหนาว บอกเลยว่าเตรียมเคลียวันหยุดได้เลย เพราะช่วงไฮซีซั่นจะอยู่ระหว่างเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ และนอกจากแพลนเที่ยวแล้วอย่าลืมแพลนเรื่องอาหารไว้ด้วยนะ อย่างที่รู้กันว่าญี่ปุ่นมีอาหารอร่อยเยอะมาก มาดูกันว่าเที่ยว ญี่ปุ่น หน้าหนาว นี้จะมีอะไรน่ากินบ้างเที่ยวญี่ปุ่น จองทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ >> https://tourkrub.co/japan-tour10 เมนูอาหาร เที่ยว ญี่ปุ่น หน้าหนาว1. Nabe (นาเบะ)เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวแบบอุณหภูมิติดลบ ของร้อนก็ดูจะเป็นประเภทอาหารที่ตอบโจทย์ที่สุด หลังจากเดินเที่ยวมาทั้งวันก็ต้องเติมพลังด้วยการทานนาเบะร้อนๆ ที่ร้าน Asakusa Ichimon เป็นร้านนาเบะสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่อยู่ในย่านแหล่งกำเนิดนาเบะสไตล์เอโดะ ซึ่งที่ร้านจะเสิร์ฟนาเบะในหม้อร้อนที่ประกอบไปด้วยเส้น ผัก และเนื้อสัตว์ต่างๆ วิธีทำคือจะใส่วัตถุดิบทุกอย่างลงไปในหม้อแล้วจึงต้มให้เดือด วิธีรับประทานคือการทานในหม้อโดยไม่ต้องเปลี่ยนภาชนะ นอกจากนี้นาเบะยังมีให้เลือกหลายประเภท และหลายรสชาติ นับว่าเป็นอาหารหม้อต้มที่มีความหลากหลายมากและทานได้ทุกวาระโอกาสAsakusa Ichimon (อาซากุสะ อิชิมอน)Address :Asakusa, Taito City, Tokyo, Japanพิกัด : https://goo.gl/maps/GUx2kooSGGMqWjEv7เวลาทำการ : 6.00 - 22.00 น.2. Ramen (ราเมง)ราเมง ไม่ว่าจะกินช่วงเวลาไหนก็อร่อยอบอุ่น แต่มา เที่ยว ญี่ปุ่น หน้าหนาว การกินราเมงต้องพิเศษ ทัวร์ครับ แนะนำ ร้าน Tsuta ร้านราเมงที่ได้มิชิลินสตาร์ที่แรกของโลก ยิ่งได้เที่ยวญี่ปุ่น หน้าหนาวราเมงก็ยิ่งอร่อยขึ้นคูณสอง สำหรับใครที่ไม่รู้จะสั่งอะไรดี เมนูเซฟโซนสุดของร้านนี้คือโชยุโซบะ ทางร้านจะทำเส้นสดใหม่ทุกวัน ในชามจะมีเนื้อซี่โครงคุโรบูตะ ซอสทรัฟเฟิล และมีผักเป็นต้นหอมกับหน่อไม้ และการได้ซดน้ำซุปคือเดอะเบสTsuta Japanese Soba Noodles (ซึตะ เจแปนนีส โซบะ นู้ดเดิ้ล)Address : Shibuya, Nishihara, Tokyo, Japanพิกัด : https://goo.gl/maps/WTAMSY5Tznk182iF6เวลาทำการ : 11.00 - 21.00 น.3. Oden (โอเด้ง)โอเด้งเป็นหนึ่งประเภทอาหารที่ช่วยให้ร่างกายท่ามกลางความหนาวเย็นอบอุ่นขึ้นได้ และถือเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูหนาวของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอาหารที่คนญี่ปุ่นเลิฟไม่เคยตกกระแส เพราะด้วยความที่เป็นเมนูทำง่ายและทานได้ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น โดยทั่วไปแล้วโอเด้งจะประกอบไปด้วย หัวไชเท้า คอนเนียคุ (บุก) ไข่ต้ม สาหร่ายคอมบุ ฮันเปน (ปลาเส้น) และลูกชิ้นชนิดต่างๆ แต่ถ้าใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวแล้วอยากทานโอเด้งที่แตกต่าง ก็ต้องลองมาที่ร้าน Konakara ที่นี่จะตกแต่งร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ และใช้สูตรการทำโอเด้งแบบดั้งเดิม จุดเด่นของเมนูโอเด้งคือการนำเต้าหู้บดไปผสมสาหร่ายและแครอท ยัดไข่นกกระทาไว้ตรงกลางแล้วปั้นเป็นก้อนจากนั้นนำไปทอด ทานตอนน้ำซุปร้อนๆ คือได้ฟีลฟิน มาเที่ยวญี่ปุ่น หน้าหนาว ก็แวะกันได้เลยครับKonakara (โคนาคาระ)Address : 1-9-6 Yushima, Bunkyo, Japanพิกัด https://maps.app.goo.gl/jiVFCTGeS8rHeg747เวลาทำการ : 06.00 - 22.30 น.4. Sukiyaki (สุกียากี้)ช่วงเวลาอากาศเย็นๆ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้หมกตัวอยู่ใน Family Restaurant กับอาหารอุ่นๆ และเมนูที่ขาดไม่ได้ก็ต้องเป็นสุกียากี้ในหม้อเหล็กแบน ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อสัตว์ ผัก และน้ำซุปโชยุเข้มข้น และในเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะพลาดเนื้อได้ไง ชี้เป้าร้านสุกียากี้ระดับตำนาน Ishibashi เป็นร้านที่ตั้งอยู่มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1872 บรรยากาศภายในร้านจะเป็นฟีลนั่งบนเสื่อทาทามิ ส่วนอาหารจะถูกเสิร์ฟบนโต๊ะโคตัตสึ เมนูสุกียากี้จะใช้วัตถุดิบน้อยอย่างแต่เน้นคุณภาพ มีเพียงเนื้อวัว ผัก เต้าหู้ และเส้นโซบะ ซึ่งเนื้อทางร้านจะเลือกเนื้อวากิว A5 จาก Kagoshima เท่านั้น ก่อนทานแนะนำให้นำเนื้อไปจุ่มไข่ก่อน สายชอบทานเนื้อต้องถูกใจสิ่งนี้Ishibashi (อิชิบาชิ)Address : 3-6-8 Sotokanda, Chiyoda, Tokyo, Japanพิกัด : https://maps.app.goo.gl/GBqdceRh4mRu1Sdw9เวลาทำการ : 17.00 - 21.30 น.5. Sashimi (ซาชิมิ)รู้หรือไม่ว่ารสชาติของซาชิมินั้นจะดีที่สุดในช่วงหน้าหนาว เพราะเป็นช่วงเวลาปลาสะสมไขมันมากที่สุด ทำให้เนื้อของปลามีรสหวานอร่อยขึ้นแบบยกกำลังสอง ดังนั้นใครไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวต้องได้ลอง แนะนำให้ไปร้าน Maguro-Ichiba ด้วยความที่เป็นร้านปลาดิบที่ราคาไม่แรงแต่มีคุณภาพ และร้านนี้มีหลายสาขาทำให้สามารถหาทานได้ง่ายทั่วญี่ปุ่น ใครที่ชอบทูน่า แซลม่อน โอโทโร่ ปลาหมึก ไข่ปลา บอกเลยว่าห้ามพลาด ถึงจะอากาศเย็นแต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้องกินอาหารร้อนดับหนาวMaguro-Ichiba (มากุโระ อิชิบะ)Address : S & T Itoville 1F, 2-5-17 Akebonocho, Tachikawa, Tokyoพิกัด : https://maps.app.goo.gl/5ZLDPYv7ttnhbTEi8เวลาทำการ : 11.00 - 22.00 น.6.Harako Meshi (ฮาราโกะ เมชิ)ใครเป็นแซลมอนเลิฟเวอร์ไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวครั้งนี้ต้องจัดให้ได้เลยกับเมนู ฮาราโกะ เมชิ ของดังจากเมืองวาตาริเมืองแห่งการประมง จังหวัดมิยากิ เมนูนี้จะเป็นข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ที่หุงด้วยน้ำซุปปลาแซลมอน ด้านบนโปะด้วยเนื้อปลาแซลมอนและไข่แซลมอน เป็นเมนูที่หาทานได้เฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวที่ปลาแซลมอนว่ายน้ำขึ้นมาที่เมืองวาตาริ เจอกันญี่ปุ่นหน้าหนาวนะชาวแซลมอนArahama Watari (อาวาฮามะ วาตาริ)Address : Nakano-183-8 Arahama, Watari, Miyagi, Japanพิกัด : https://maps.app.goo.gl/8J3EpjBduTLYWqAGAเวลาทำการ : 11.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 21.30 น. (หยุดวันพุธ)7. Yakiniku (ยากินิกุ)เที่ยวญี่ปุ่น หน้าหนาว อากาศแบบนี้ก็ต้องเข้าร้านยากินิกุ ไปนั่งย่างเนื้อหน้าเตาคลายหนาว ร้านยากินิกุคือร้านเนื้อย่างที่เราเป็นคนย่างเอง ซึ่งนั่นแปลว่าเราเลือกความสุกของเนื้อได้ตามความพอใจ ไม่ว่าจะ Rare, Medium Rare, Medium, Medium-Well หรือ Well Done ก็ทำได้ อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อสัตว์ต่างๆ หรือเครื่องใน ทานคู่กับผักและเครื่องเคียง ใครเป็นสายเนื้อเน้นคุณภาพต้องมาลองที่ร้าน Ginza Enzo ร้านนี้เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นนิยมมาเพื่อการสังสรรค์ เพราะมีเนื้อให้เลือกค่อนข้างเยอะและเป็นเนื้อเกรดพรีเมียม ทานพร้อมกับเครื่องดื่มได้จุใจGinza Enzo (กินซ่า เอ็นโซะ)Address : 104-0061 Ginza, Tokyo, Japanพิกัด : https://maps.app.goo.gl/sAo5HY7B8WGoVPuM7เวลาทำการ : 11.30 - 15.00 น. และ 17.00 - 23.00 น.8. Kare raisu (คะเระ ไรอิสึ หรือ ข้าวแกงกะหรี่)ที่จริงแล้วแกงกะหรี่ไม่ได้กำเนิดจากญี่ปุ่นแต่เป็นอังกฤษ ย้อนไปยุคล่าอาณานิคมตอนที่อังกฤษเป็นเมืองขึ้นของอินเดียจึงได้นำเครื่องเทศจากอินเดียกลับไป และด้วยความสัมพันธ์ทางการทหารญี่ปุ่นจึงได้รับอิทธิพลของแกงกะหรี่ไปด้วย ซึ่งต่อมากลายเป็นเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่นไปโดยปริยาย และเมื่อมาถึงญี่ปุ่นต้องได้อีทข้าวแกงกะหรี่สักมื้อ สำหรับเรื่องความแตกต่างต้องยกให้ร้าน Yoshida Curry เสิร์ฟข้าวแกงกะหรี่แล้วโปะแกงกะหรี่แบบแห้งและไข่ดิบอีกที เป็นอีกเมนูที่อิ่มท้องและเติมพลังงานได้ดีในการเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวมากๆYoshida Curry (โยชิดะ คาเระ)Address : 3-8-2 Amanuma, Suginami, Tokyo, Japanพิกัด : https://maps.app.goo.gl/oS8hEjN92t7FVFuj7เวลาทำการ : 11.30 - 13.50 น. และ 17.30 - 21.00 น. (หยุดวันพุธ พฤหัสบดี และอาทิตย์)9. Donburi (ดงบุริ)ดงบุริ คือ อาหารประเภทข้าวที่ใส่ในชามก้นลึก เสิร์ฟพร้อมเนื้อสัตว์ซึ่งจะมีชื่อเรียกตามชนิดของท็อปปิ้ง เช่น กิวด้ง (ข้าวหน้าเนื้อ) หรือ คัตสึด้ง (หมูทอด) เป็นต้น เป็นประเภทอาหารที่มีความหลากหลาย และสำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวบอกเลยว่าดงบุริก็เป็นอีกเมนูแสนอบอุ่นเพราะความหมายมันช่างฟูลฟีล เมนูที่ว่านั้นคือ Oyakodon นั่นเอง โอยาโกะแปลว่าแม่กับลูก เป็นเมนูที่มีส่วนประกอบของไก่ที่นำไปผัดกับหอมหัวใหญ่และราดด้วยไข่สดปรุงรส รสจะออกเค็มๆ หวานๆ ทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ จะได้ราชาติที่กลมกล่อมพอดี ร้านที่โดดเด่นเรื่องเมนูนี้ต้องยกให้ Torimeshi Toritoh Bunten เป็นร้านเล็กๆ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเหมาะกับความหมายของโอยาโกะด้งเป็นที่สุดTorimeshi Toritoh Bunten (โทริเมชิ โทริโต บุนเต็น)Address : 4-8-6 Tsukiji, Chuo, Tokyo, Japanพิกัด : https://maps.app.goo.gl/6NNF3sqKDLma4xbG6เวลาทำการ : 08.30 - 13.00 น. (หยุดอาทิตย์)10. Ochazuke (โอฉะสึเกะ หรือ ข้าวต้มชา)มาญี่ปุ่นต้องลองไปชิมอาหารพื้นบ้านของชาวอาทิตย์อุทัย โอฉะสึเกะ ข้าวต้มชาที่ดูง่ายๆ แต่แน่นทุกรายละเอียด Zuzu Ochazuke Bar ร้านโอฉะสึเกะสไตล์บาร์ ทานอาหารชิลล์ๆ ภายใต้แสงสลัวได้บรรยากาศญี่ปุ่นสมัยก่อนที่นั่งทานข้าวบนเสื่อทาทามิ ส่วนอาหารจะถูกเสิร์ฟบนโต๊ะโคตัตสึ วิธีรับประทานโอฉะสึเกะคือการเทชาร้อนๆ ลงไปในชามข้าว ซึ่งจะมีข้าวหน้าต่างๆ ให้เลือก เช่น หน้าปลาไหล ส่วนอาหารที่ถูกเสิร์ฟก็จะมีข้าวหน้าปลาไหลย่างและกาน้ำชาแยกกัน เป็นเมนูที่ญี่ปุ๊นญี่ปุ่นZuzu Ochazuke Bar (ซุซุโอฉะสึเกะ บาร์)Address : Ito Building 3F, 4F, 1-21-2, Kabukicho, Shinjuku-ku, Tokyo, Japanพิกัด : https://maps.app.goo.gl/ojN8K3igxE4B16Hm6เวลาทำการ : 12.00 - 23.30 น. (วันอาทิตย์ - พุธ) / 17.00 - 23.30 น. (วันพฤหัส - ศุกร์) / วันเสาร์ 12.00 - 00.00 น.เท่านี้การเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวก็จะชิลล์ เพราะมีอาหารคลายหนาวเป็นตัวช่วย และนอกจาก 10 เมนูนี้แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะมาก สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ตามพิกัดร้านอาหารอร่อยๆ สามารถดูแพ็คเก็จ ทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ ได้เลย